คุณพรศิริ รักนุกูล

เกษตรกรสวนปาล์ม ที่อําเภอพนมทวน จังหวัดกระบี่

คุณพรศิริ รักนุกูล หรือพี่อ้อย จากพนักงานธนาคารสู่เกษตรกรสวนปาล์ม มืออาชีพ วันหนึ่งเมื่อต้องกลับบ้านเกิดที่อําเภอพนมทวน จังหวัดกระบี่ เพื่อดูแลสวนปาล์ม ของครอบครัวบนพื้นที่กว่า 35 ไร่ พี่อ้อยซึ่งไม่มีพื้นฐานการทําเกษตรมาก่อน จึงต้องหา ความรู้และประสบการณ์ จนสามารถเพิ่มผลผลิตปาล์มได้สูงถึง 6.4 ตันต่อไร่

เมื่อไม่มีความรู้เรื่องการปลูกปาล์ม ผลผลิตที่ได้จึงไม่ดีเท่าที่ควร เพราะใช้วิธี เติมแม่ปุ๋ยทีละตัว กว่าจะใส่ครบทุกตัวทําให้ต้องเสียเวลาและค่าจ้างแรงงาน ซึ่งไม่คุ้มค่า กับการลงทุนในช่วง 3 ปีแรกที่เข้ามาดูแล ต่อมา พี่อ้อยจึงเข้ารับการอบรมเรื่องการใส่ปุ๋ย ในสวนปาล์ม และจากประสบการณ์ทําให้เรียนรู้ว่า สภาพภูมิอากาศของภาคใต้ที่มีฝนตก ต่อเนื่องตลอดทั้งปี จะมีผลทําให้การใส่ปุ๋ยไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร ผลผลิตที่ได้ จึงอยู่ที่ไร่ละ 2.5-3 ตันเท่านั้น

palm

เพราะเรียนรู้จึงเพิ่มพูนผลผลิตปาล์มได้

เมื่อมีนักวิชาการของปุ๋ยยาราเข้ามาให้คําแนะนํา พี่อ้อยซึ่งไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้ จึงได้แบ่งพื้นที่ 1 ไร่เศษ เพื่อทดลองใช้ “ปุ๋ยยารา” แม้จะยังไม่ครบรอบการติดผลผลิต ทะลายปาล์ม ซึ่งปกติต้องใช้ระยะเวลาถึง 2 ปี ก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง คือ ต้นปาล์มมีใบเขียวสด ทรงพุ่มเสมอ กว้าง แผ่ออกสวยตามขนาดของต้นปาล์ม มองเป็น รูปทรงที่สมดุล ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดตอนเก็บเกี่ยวผลผลิตคือ ทะลายปาล์มมีน้ําหนักดี จํานวนทะลายมากขึ้น แม้จะมีทะลายเล็ก ๆ เกิดขึ้นบ้าง แต่ในทะลายเล็กนั้นก็เนื้อในแน่น ทําให้ปริมาณผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น 

plam tree

ปาล์มสมบูรณ์ เพราะใส่ปุ๋ยถูกสูตรและถูกช่วงเวลา

สวนปาล์มของพี่อ้อยแต่เดิมเป็นสวนเก่าที่มีปาล์มอายุมากและมีระยะการปลูก หลายระยะ ต่อมาจึงปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีระยะการปลูกที่เหมาะสม คือ ระยะ 9x9 เมตร ลงปลูกได้จํานวน 22 ต้นต่อไร่ ปาล์มจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุได้ 2.5-3 ปี

เทคนิคที่พี่อ้อยแนะนําคือ ควรใส่ปุ๋ยทั้งหมด 3 ครั้งต่อปี คือ ต้นฝน กลางฝน และปลายฝน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในเขตภาคใต้ การใส่ปุ๋ยจึงต้องคํานวณระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปลูกปาล์ม ของสวนแห่งนี้ เพราะผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่น้อยกว่า 2 เท่าในทุกรอบการผลิต

วิธีการใส่ปุ๋ยให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดคือ ต้นปาล์มอายุ 4 ปีขึ้นไป ช่วงกลางฝน จะให้ “ปุ๋ยยารามีร่า ท็อปเค 10-10-30” อัตรา 2.5-3 กิโลกรัมต่อต้น หรือบางรอบ จะให้ “ปุ๋ยยารามีร่า 14-14-21 อัตรา 3 กิโลกรัมต่อต้น ส่วนต้นปาล์มอายุ 7 ปี ขึ้นไป จะให้ “ปุ๋ยยารามีร่า ท็อปเค” อัตรา 3 กิโลกรัมต่อต้น หรือ “ปุ๋ยยารามีร่า 14-14-21 อัตรา 4 กิโลกรัมต่อต้น โดยไม่ต้องให้ธาตุอาหารอื่นเพิ่มเติม กระทั่งถึงช่วงปลายฝน จึงใส่ปุ๋ยอีกครั้ง ปริมาณการให้ปุ๋ยจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับอายุของต้นปาล์ม

ข้อดีของปุ๋ยยาราคือ “ปุ๋ยยารามีร่า ท็อปเค 10-10-30 ให้ธาตุอาหารในปุ๋ยเสมอกันทุกเม็ด แม้จะมีฝนตกลงมาในปริมาณมาก ธาตุอาหารที่อยู่ในปุ๋ยก็ไม่ถูกฝนซะล้างให้สูญเสียไป ส่วนในช่วงที่ สภาพอากาศร้อนหรือฝนตกน้อย ธาตุอาหารในเม็ดปุ๋ยยาราก็ไม่ ระเหิดไปตามสภาพอากาศ ปาล์มทุกต้นจึงได้รับธาตุอาหารที่ ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่เกิดการสูญเสียแม้แต่น้อย

แม้ราคาปาล์มตก แต่ก็ยังมองเห็นกําไร

ตลอดระยะเวลา 7 ปี สวนปาล์มของพี่อ้อยมั่นใจในคุณภาพ ของปุ๋ยยารา การตัดสินใจทดลองใช้ในปีแรกเพียง 1 ไร่ ก็เห็นความ เปลี่ยนแปลงของต้นปาล์มได้อย่างชัดเจน จึงเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยยารา ทั้งหมด 35 ไร่ ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก 2.5-3 ตัน เป็น 5.5-6.4 ตัน คิดเป็นกําไรต่อไร่อยู่ที่ 20,000 บาท โดยประหยัด ทั้งต้นทุน เวลา และแรงงานในการใส่ปุ๋ย เพราะปุ๋ยยาราเป็น ปุ๋ยคอมปาวด์ มีธาตุอาหารครบในเม็ดเดียว

พี่อ้อยกล่าวทิ้งท้ายว่า “พี่ใช้ปุ๋ยยาราแล้วสบายใจ เพราะ ผลผลิตได้คุณภาพและปริมาณสูง เรื่องขาดทุนไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าราคาปาล์มจะตกต่ําแค่ไหน ปริมาณผลผลิตที่ขายได้ก็มี กําไร คุ้มค่ากับต้นทุนการปลูกปาล์ม ตอนนี้ทั้งญาติและเพื่อน บ้านใกล้เคียงก็เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยยารากันหมดแล้ว เพราะเห็น ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ตัดสินใจเปลี่ยนในตอนนั้น ก็คงต้องเหนื่อยกับสวนปาล์มแบบไม่มีวันหยุดตลอดปี แน่นอน”

คลิปวิดิโอเสียงจริงเกษตรกรยารา